7 ศิลปะแห่งการเลือกที่ตั้งฮวงจุ้ยที่ดี

ศิลปะแห่งการเลือกที่ตั้งฮวงจุ้ยที่ดี

สุขภาพดีและความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยฮวงจุ้ย กล่าวถึงฮวงจุ้ยว่าเป็น "ศิลปะแห่งการเลือกที่ตั้ง" อันที่จริงวัตถุประสงค์ของการทำฮวงจุ้ยคือ เพื่อจะได้สามารถหาที่ตั้งของสิ่งต่างๆ ไปจนถึงเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ให้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นมงคลที่สุดนั่นเอง การทำเช่นนี้จะเป็นหลักประกันแห่งความกลมกลืน เพราะวัตถุที่ตั้งในตำแหน่งดีจะ "ได้รับ" พลังดีที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ซาของสภาพแวดล้อมภายนอกสามารถแผ่อิทธิพลร้ายได้ฉันใด การตกแต่งภายในบ้านก็สามารถบรรเทาผลร้ายของอิทธิพลที่ไม่พึงประสงค์ได้ฉันนั้น ซาภายในแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

 

ประเภทแรกเกี่ยวพันกับรูปทรงของบ้าน เชื่อกันทั่วไปว่าถ้าบ้าน 2 หลังมีลักษณะอื่น ๆ ทัดเทียมกันหมด บ้านหลังที่มีชั้นล่างสมภาค (แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้เท่า ๆ กัน) อาทิ สี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะมีฮวงจุ้ยดีกว่าบ้านที่มีชั้นล่างไม่สมภาค รูปตัวอย่างบ้านที่มีรูปทรงอัปมงคล

 

เกณฑ์วัดบ้านว่ามีรูปทรงที่ดีหรือไม่นั้น สามารถสืบสาวย้อนหลังไปจนถึงวิธีวัดและชี้ทิศของคนจีนในสมัยโบราณ มันวางพื้นฐานอยู่บนรูปทรงกลมที่แบ่งออกเป็นแปดส่วนเท่ากัน แต่ละส่วนมีมุมกว้างเท่ากับ 45 องศา และแต่ละส่วนเรียกว่ากัว ซึ่งแทนด้วยเครื่องหมายตรีลักษณ์ และแต่ละกัวคือสัญลักษณ์แทนสิ่งด่างๆ จำนวนมากบ้านที่มีรูปทรงไม่ปกติจะไม่เป็นมงคล เพราะมันไม่สามารถรับพลังทิศที่จับต้องไม่ได้ในลักษณะที่สมดุล สี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีด้านตรงข้ามเท่ากัน มันจึงรับพลังที่จับต้องไม่ได้อย่าง "สมดุล"

 

 

บ้านที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบ ๆ ไม่สามารถรองรับกัวทั้ง 8 ไว้ในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน ถ้าบ้านมีรูปทรงที่ไม่ปกติ มันจะสูญเสียอิทธิพลของบางทิศไปแต่ละกัวแทนคนประเภทหนึ่ง ถ้ากัวหายไปแม้แต่ กัวเดียว โชคร้ายอาจมาเยือน สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวที่มีกัวนั้น ๆ เป็นตัวแทนก็ได้

 

ซาภายในประเภทที่สอง หมายถึงการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยชั้นล่างและห้องต่างๆ (ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องส้วม ห้องครัว ฯลฯ) ตัวอย่างเช่น บ้านที่มี ความกลมกลืนไม่ควรมีห้องนั่งเล่นเล็กกว่าห้องนอนห้องหนึ่งห้องใด ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังคือ ห้องนอนเป็นหยิน (เพศหญิง) ส่วนห้องนั่งเล่นเป็นหยาง (เพศชาย) ผู้ชายควรแข็งแรงกว่าเสมอ

 

 

นอกจากนั้นทางเข้าด้านหน้ายังไม่ควรตรง กับประตูห้องน้ำอีกด้วย เนื่องจากประตูหน้าจะรับพลังที่จับต้องไม่ได้เป็นหลัก ดังนั้น อิทธิพลที่ดีใด ๆ ก็ตามซึ่งผ่านประตูเข้ามา จึงไหลลงโถส้วมหมด 

 

 

 

ในทำนองเดียวกัน ประตูหน้าก็ไม่ควรตรงกับหน้าต่าง 

 

 

ไม่ควรมีหน้าต่างตรงบริเวณปลายเส้นตรงที่ยาวที่สุด ซึ่งลากทแยงจากประตูไปสู่จุดนั้น ทั้งนี้เพราะบ่อยครั้งมุมต่าง ๆ จะเป็นที่รวมตัวของพลังที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งหมุนเวียนอยู่ภายในบ้าน หน้าต่างเปิดจะดึงพลังที่ดีออกไปก่อนที่มันจะมีเวลาหมุนเวียนไปทั่วทั้งบ้าน มุมเหล่านี้เรียกกันทั่วไปว่าตำแหน่งแห่งความมั่งคั่ง

 

 

ซาด้านกายภาพในบ้านประเภทที่สาม หมายถึงการจัดวางเครื่องเรือน และเครื่องประดับตกแต่งภายในบ้าน ตัวอย่างเช่น คุณไม่ควรวางเตียงหรือโต๊ะของคุณ ใต้คานคอนกรีต เพราะมันจะส่ง "แรงกดดัน" ต่อคนที่ทำงานหรือนอนหลับใต้มัน คนที่ช่างสงสัยอาจถือว่า "แรงกดดัน" นี้เป็นเพียงเรื่องของจิตใจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลให้เชื่อว่าแรงแม่เหล็กบางอย่างมีอยู่จริงในวัตถุที่มวลหนาแน่น วิชาฮวงจุ้ยมักพิศวงกับปรากฎการณ์ที่เกิดจากสิ่งก่อสร้างซึ่งมีรูปทรงยาว ถึงแม้จะเป็นที่รู้กันว่าอาคารวางตัวในแนวตรง (ดังนั้น ทุกจุดจึงอยู่ในทิศเดียวกัน)

 

ตัวอย่างเช่น เมื่ออ่านทิศจากปลายทั้งสองด้านของอาคาร กับอ่านทิศจากบริเวณตอนกลางของอาคาร บ่อยครั้งเข็มทิศกลับชี้ไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน คำอธิบายกี่สมเหตุผลดูเหมือนจะเป็นว่า มีความไม่สมดุลบางอย่างในมวลของคอนกรีด ดังนั้นจึงทำให้วัดทิศได้แตกต่างกัน ผู้ที่มักนั่งหรือนอนอยู่ใต้คานคอนกรีตบ่อย ๆ จึงอาจตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของแรงแม่เหล็กได้

 

การติดตั้งกระจกเงาไว้ที่ปลายเตียงก็เป็นอีกข้อห้ามหนึ่ง ถ้าคุณเกิดตื่นขึ้นมากลางดึก คุณอาจตกใจจากการเห็นภาพตัวเองในกระจกเงาก็ได้ อย่างไรก็ตามมีคำอธิบายในด้านที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณในเรื่องนี้ด้วย กล่าวคือ เงาคนในกระจกเงามีธาตุหยิน (เพศหญิง ซึ่งคล้ายคลึงกับ "วิญญาณ" ดังนั้น กระจกเงาที่ปลายเตียงจึง "จับ" เงาคนคนนั้นเอาไว้ในระหว่างหลับ 

 

เตามีความสำคัญอย่างยิ่งในฮวงวุ้ย ไม่ควรตั้งเตาให้ตรงกับประตูหน้า มันเกี่ยวพันอย่างใกลัชิดกับสุขภาพและความเจริญรุ่งเรืองของครอบครัว ดังนั้น จึงควรตั้งเตาให้หันไปทิศที่ถูกโฉลกของบ้าน เพื่อเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองให้ครอบครัว 

 

การจัดวางเครื่องเรือนและเครื่องประดับตกแต่งบ้านที่ไม่เป็นมงคลไม่ควรวางโต๊ะหรือเตียงไว้กลางห้องโดยไม่พิงผนังห้อง โดยเฉพาะถ้าห้องนั้นกว้างและมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังคือ ผู้มีอำนาจหน้าที่จำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนอันมั่นคง และโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้อง "ลอย" อยู่ในอากาศ หรือขาดความสนับสนุนอันมั่นคงจากสิ่งรอบ ๆ จุดกำเนิดของความเชื่อนี้สามารถสืบสาวย้อนหลังไปถึงยุคเก่าก่อน ในสมัยที่คนจีนในชนบทมักวางโลงศพของผู้เสียชีวิตไว้ที่ลานวัด (ขณะเลือกทำเลที่ฝังศพอันเหมาะสม) โลงศพมักวางอยู่กลางลานวัดโดยไม่ได้พิงผนังหรือกำแพงวัด ดังนั้นการวางเตียงหรือ โต๊ะในลักษณะนี้ จึงมักเรียกว่าการจัดวางเครื่องเรือนแบบ "โลงศพ"

 

เราพูดกันไปแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ว่า ไม่ควรรบกวนซาของดาวห้า ดังนั้น จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงโคมเพดานที่มีหลอดไฟห้าดวง  โคมที่มีหลอดไฟ 5 ดวงคือตัวแทนซาของดาวห้าและการทำกิจกรรมใด ๆ ใต้มันอาจไปรบกวนบรรยากาศผลคือมันอาจนำโชคร้ายมาให้ 

 

ซาภายในก็เหมือนกับซาภายนอก ค่าที่มันจะไม่ก่อให้เกิดเภทภัยโดยปราศจากพลังร้ายที่จับต้องไม่ได้ บ่อยครั้งที่ "กฎต่างๆ" ในฮวงจุ้ยจะทำงานอย่างกลมกลืนกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในด้านสุขอนามัย ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ทำตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ ไม่เพียงเพราะมันมีนัยในแง่ของฮวงจุ้ยเท่านั้น แต่ยังเพื่อประโยชน์ของบ้านที่มีระเบียบวินัย สะดวกสบาย และมีบรรยากาศที่กลมกลืนยิ่งขึ้นอีกด้วย 

 

Visitors: 165,337